เกิดวงธัญพืช หรือ ครอปเซอร์เคิ่ล ที่ทุ่งนา ประเทศอินโดนีเซีย 2 วันที่ผ่านมา โดยชาวบ้านต่างลือกันว่าเป็นฝีมือมนุษย์ต่างดาว สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดวงธัญพืช หรือ ครอปเซอร์เคิ่ล ที่หลายฝ่ายบอกว่าเกิดจากฝีมือมนุษย์ต่างดาว โดยครั้งนี้เกิดขึ้นที่ทุ่งนาประเทศอินโดนีเซีย โดยมีชาวอินโดนีเซียเกือบ 2 พันคน รอเข้าชมวงธัญพืชครั้งนี้ที่นาข้าวของเมืองฟลอคกิ้ง หลังมีข่าวลืออย่างต่อเนื่องว่าเกิดขึ้นจากยูเอฟโอ แม้ว่ารูปสามารถมองเห็นได้ว่าเกิดจากฝีมือมนุษย์อย่าง ชัดเจน แต่ก็ได้ดึงดูดความสนใจกับชาวอินโดนีเซียเกือบ 2 พันคน เข้าแถวรอเข้าชมทันทีที่รู้ข่าวลือกันว่าเป็นฝีมือมนุษย์ต่างดาว ทั้งนี้ วงธัญพืชที่เกิดขึ้นนี้ ออกมาค่อนข้างประณีตเป็นอย่างมาก โดยวงกลมกว้างราว 70 เมตร และล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซีย ได้ทำการปิดกั้นพื้นที่ด้วยเทปสีเหลืองแล้ว และยังมีการเก็บค่าเข้าชมวงธัญพืชดังกล่าวนี้อีกด้วย ด้านหัวหน้าของหมู่บ้านในอำเภอ กล่าวว่าวงกลมปรากฏอยู่กลางทุ่งนาสีเขียว เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดวงธัญพืชนี้ได้เกิดพายุหมุนวงใหญ่พัดเข้ามาในทุ่งนาอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะพัดหายไป แต่ทางกรมอุตุฯ ของอินโด ก็ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวนี้เเล้วโดยบอกว่า ไม่มีพายุหมุนที่ทุ่งนา ตามที่ชาวบ้านบอก ทั้งนี้ ครอปเซอร์เคิล ถูกค้นพบครั้งแรกปี 1678 ที่เฮิร์ทฟอร์ดเชียร์ อังกฤษ ไม่มีใครอธิบายได้ว่าอะไรทำให้มันเกิดขึ้น แต่หลังจากการค้นพบของชัตเติลวูดกับบอนด์และเฟอร์แล้ว มันนำไปสู่ทฤษฎีแรกคือร่องรอยการลงจอดของยานจากต่างดาว ในทศวรรษที่ 1980 ได้มีการค้นพบครอปเซอร์เคิลมากขึ้น โดยเฉพาะรอบๆ เมืองวอร์มินสเตอร์ ในช่วงต้นของทศวรรษนี้ รูปทรงของมันก็ยังคงเหมือนเดิม คือเป็นวงกลมหยาบๆ แต่ในกลางทศวรรษรูปทรงของมันซับซ้อนขึ้น คือมีวงแหวนแตกออกไป และมันเริ่มดึงดูดใจคนอังกฤษมากขึ้น ในทศวรรษนี้เอง ด๊อกเตอร์ เทอร์เรนซ์ มีเดน ศาสตราจารย์ทางฟิสิกส์และนักอุตุนิยมวิทยาได้พยายามไขปริศนานี้ โดยทำการวิจัยครอปเซอร์เคิลมากกว่า 1,000 แห่ง มีเดนเสนอทฤษฎีว่า ครอปเซอร์เคิลเกิดจากความผิดปกติของอากาศที่เขาเรียกว่า พลาสม่า วอร์เท็กซ์ ทำให้เกิดลมหมุนวนในระดับสูงแล้วเคลื่อนตัวลงสู่พื้นทำให้พืชแบนราบ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น